“แนวกำแพงเมืองเก่าที่ได้รับการบูรณะจนสมบูรณ์ที่สุดทางด้านทิศเหนือ มี ป้อมปราการและใบเสมา ที่สวยงามตั้งตระหง่านริมคลอง”
กำแพงเมืองนครศรีธรรมราช (Nakhon Si Thammarat City Wall) เป็นโบราณสถานที่สะท้อนถึงความเกรียงไกรของเมือง "ตามพรลิงค์" ในอดีต ซึ่งเคยเป็นหัวเมืองเอกที่สำคัญที่สุดทางภาคใต้ของไทย ตามตำนานกล่าวว่ากำแพงเมืองนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมื่อครั้งตั้งเมืองบนหาดทรายแก้ว โดยเดิมทีมีลักษณะเป็นกำแพงดินและมีคูเมืองล้อมรอบเพื่อป้องกันศัตรูทางบกและทางน้ำ ต่อมาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ได้มีการปรับปรุงกำแพงเมืองครั้งใหญ่โดยได้รับการออกแบบจากวิศวกรชาวฝรั่งเศส ทำให้กำแพงมีลักษณะเป็นอิฐถือปูนที่มีความแข็งแกร่งและมีป้อมปราการตามแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก
ในอดีตกำแพงเมืองแห่งนี้มีความยาวล้อมรอบตัวเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางและมีประตูเมืองหลายทิศทาง แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปและการขยายตัวของผังเมืองทำให้กำแพงส่วนใหญ่พังทลายลง จนกระทั่งกรมศิลปากรได้เข้ามาดำเนินการบูรณะแนวกำแพงด้านทิศเหนือบริเวณ ถนนมุมป้อม ให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์สวยงามอีกครั้ง ปัจจุบันกำแพงเมืองไม่ได้ทำหน้าที่ป้องกันข้าศึกอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะและแลนด์มาร์กสำคัญที่คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนหย่อนใจ
บริเวณแนวกำแพงมี "ใบเสมา" ตั้งเรียงรายบนเชิงเทินที่ออกแบบมาอย่างประณีต ด้านล่างมีสนามหญ้าสีเขียวตัดกับสีอิฐเก่าของกำแพง และมีคลองหน้าเมืองไหลขนานไปตลอดแนว สร้างทัศนียภาพที่งดงามทั้งในตอนกลางวันและยามค่ำคืนที่มีการเปิดไฟประดับ การมาเยือนสถานที่แห่งนี้จึงไม่ใช่แค่การมาชมซากปรักหักพัง แต่เป็นการสัมผัสถึงรากเหง้าและความภาคภูมิใจของชาวนครศรีธรรมราชที่สืบทอดกันมานับพันปีท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
วิธีการเดินทาง
- รถยนต์ส่วนตัว: ขับรถเข้าสู่ใจกลางเมืองนครศรีธรรมราช ใช้เส้นทางถนนราชดำเนินมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ จนถึงบริเวณถนนมุมป้อม หรือถนนศรีธรรมราช กำแพงเมืองจะตั้งอยู่ริมคลองหน้าเมือง สามารถจอดรถได้บริเวณริมทางหรือพื้นที่จอดรถใกล้เคียง
- รถสาธารณะ: สามารถนั่งรถสองแถวสายที่วิ่งผ่านหน้าศาลากลางจังหวัดหรือเส้นราชดำเนิน (รถสีเหลืองหรือสีขาว) และแจ้งลงที่กำแพงเมืองเก่า หรือจะใช้บริการรถสามล้อเครื่อง (รถหัวกบ) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนครฯ ให้มาส่งที่หน้าสถานที่ได้สะดวก
คำแนะนำ
- ช่วงเวลาที่สวยที่สุดสำหรับการถ่ายรูปคือช่วงเย็น (16:30 น. เป็นต้นไป) เพราะแสงแดดจะไม่ร้อนเกินไปและจะมีการเปิดไฟประดับกำแพงในยามค่ำคืน
- ควรเดินชมกำแพงตลอดแนวเพื่อหามุมถ่ายภาพที่หลากหลาย โดยเฉพาะมุมจากฝั่งตรงข้ามคลองที่จะเห็นเงาสะท้อนของกำแพงในน้ำ
- ห้ามขีดเขียนหรือปีนป่ายขึ้นไปบนตัวกำแพงและใบเสมา เพื่อเป็นการช่วยกันอนุรักษ์โบราณสถานให้คงสภาพเดิม
- ในวันศุกร์และเสาร์ บริเวณใกล้เคียงมักจะมีต
ค่าเข้าชม:
- ไม่มีค่าเข้าชม (ฟรี)
เวลาเปิด-ปิด:
- เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (แนะนำให้เข้าชมในช่วงเช้าหรือเย็น)